เมนู

ก็พระนครของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าโสภิตนั้น มีชื่อว่า สุธรรม
พระบิดาเป็นพระราชา พระนามว่า สุธรรม พระมารดา พระนามว่า สุธรรมา
พระอสมเถระ และพระสุเนตรเถระเป็นคู่พระอัครสาวก พุทธปัฏฐาก ชื่อว่า
อโนมะ พระนกุลาเถรี และพระสุชาดาเถรี เป็นคู่พระอัครสาวิกา ไม้กากะทิง
เป็นไม้ตรัสรู้ พระองค์มีพระสรีระสูง 58 ศอก มีพระชนมายุเก้าหมื่นพรรษาแล.
จบโสภิตกถา

อโนมทัสสีกถาที่ 7



ในกาลต่อจากพระโสภิตพุทธเจ้าล่วงไปหนึ่งอสงไขย ในกัปหนึ่ง มี
พระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น 3 พระองค์ คือ พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า พระ-
ปทุมพุทธเจ้า พระนารทพุทธเจ้า
ก็ศาสนาของพระผู้มีพระภาคเจ้า
พระนามว่า อโนมทัสสี มีสาวกสันนิบาต 3 ครั้ง ในครั้งแรกมีภิกษุ 8 แสน
ครั้งที่ 2 มีภิกษุ 7 แสน ครั้งที่ 3 มีภิกษุ 6 แสนมาประชุมกัน.
ในกาลนั้น พระโพธิสัตว์ เป็นเสนาบดียักษ์ตนหนึ่ง มีฤทธิ์มาก
มีอานุภาพมาก เป็นใหญ่กว่ายักษ์หลายแสนโกฏิ เสนาบดียักษ์นั้นฟังว่า
พระพุทธเจ้าทรงอุบัติแล้ว ได้มาถวายมหาทานแก่หมู่ภิกษุมีพระพุทธเจ้าเป็น
ประมุข แม้พระศาสดาก็ได้พยากรณ์ยักษ์นั้นว่า ในอนาคตกาลจักเป็น
พระพุทธเจ้า ดังนี้.
ก็พระนครของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น นามว่า จันทวดี พระบิดา
เป็นพระราชา พระนามว่า ยสวา พระมารดา พระนามว่า ยโสธรา พระนิสภเถระ
และพระอโนมเถระ เป็นคู่พระอัครสาวก พุทธุปัฏฐาก ชื่อว่า วรุณะ พระสุนทรี-
เถรีและพระสุมนาเถรี เป็นคู่อัครสาวิกา ต้นไม้รกฟ้าเป็นต้นไม้ตรัสรู้ พระ-
สรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้าสูง 58 ศอก มีพระชนมายุแสนปีแล.
จบอโนมทัสสีกถา

ปทุมกถาที่ 8



ในกาลต่อจากพระอโนมทัสสีพุทธเจ้านั้น พระศาสดา พระนามว่า
ปทุมะ ก็ทรงอุบัติขึ้น แม้สาวกสันนิบาตของพระองค์ก็มี 3 ครั้ง ครั้งแรกมี
ภิกษุหนึ่งแสนโกฏิ ครั้งที่ 2 มีภิกษุสามแสนรูป ครั้งที่ 3 มีภิกษุผู้อาศัยอยู่
ป่าชัฏมหาวันในป่าเปลี่ยวมาประชุมสองแสนรูป.
ครั้งนั้น เมื่อพระตถาคตประทับอยู่ในป่าชัฏนั้นนั่นแหละ พระโพธิ-
สัตว์เป็นพญาสีหะ ได้เห็นพระศาสดาผู้เข้านิโรธสมาบัติแล้วมีจิตเลื่อมใสหมอบ
ลงจบ (ไหว้) กระทำประทักษิณ มีปีติโสมนัสเกิดแล้ว บันลือสีหนาท
สามครั้งไม่ละเว้นปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ไม่ออกไปหาอาหาร เพราะ
ความสุขอันเกิดแต่ปีตินั่นแหละ ได้ทำการสละชีวิตเข้าไปยืนเฝ้าอยู่ 7 วัน
ครั้นล่วงไป 7 วัน พระศาสดาทรงออกจากนิโรธแล้ว ทอดพระเนตรเห็น
พญาสีหะแล้วทรงดำริว่า สีหะนี้ยังจิตให้เลื่อมใสแม้ในหมู่ภิกษุแล้วจักจบสงฆ์
ขอสงฆ์จงมา ดังนี้ ภิกษุทั้งหลายมาแล้วในขณะนั้นทีเดียว พญาสีหะก็ยังจิต
ให้เลื่อมใสในสงฆ์ พระศาสดาทรงตรวจดูภูมิธรรมอันมีในใจของพญาสีหะจึง
พยากรณ์ว่า ในอนาคตกาล พญาสีหะนี้จักเป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้.
ก็พระนครของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น มีชื่อว่า จัมปกะ พระบิดาเป็น
พระราชาพระนามว่า อสมะ แม้พระมารดาก็ทรงพระนามว่า อสมา พระ-
สาลเถระและพระอุปสาลเถระเป็นคู่พระอัครสาวก พุทธุปัฏฐาก ชื่อว่า วรุณะ
พระรามาเถรีและพระสุรามาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา ต้นไม้อ้อยช้างน้อย เป็น
ไม้ตรัสรู้ พระสรีระของพระองค์สูง 58 ศอก มีพระชนมายุหนึ่งแสนพรรษา
แล.
จบปทุมกถา